เสพติดมือถือ ระวังปวดคอเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว

ในปัจจุบันสังคมทุกวันนี้เราถือได้ว่าเป็นยุค สังคมก้มหน้า ไม่ว่าเราจะอยู่คนเดียว หรือแม้กระทั่งรวมอยู่กันหลายคน โทรศัพท์เคลื่อนที่ถือเป็นเหมือนปัจจัย 5 ของชีวิตคนเราไปแล้ว คนส่วนใหญ่หันไปให้ความสนใจกับโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา บางรายใช้เวลาอยู่กับการเล่นโซเซียลมากกว่าการพักผ่อน หรือบางคนต้องทำงานติดต่องานทางโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต/ คอมพิวเตอร์

“สัปดาห์ที่ผ่านมา หมอได้มีโอกาสไปบรรยายให้กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เห็นนักศึกษาหลายคน กำลังก้มหน้า เล่นเกมมือถือ อย่างจริงจัง โดยไม่ได้กลัวว่าจะปวดคอสักนิดหมอเห็นน้องเค้าก้มมากซะจน อยากจะเข้าไปบอกน้องเค้า เพื่อตักเตือนว่า อายุขนาดนี้ น้องก้มขนาดนี้ กระดูกคอน้องน่าจะพังก่อนวัยอันควรเป็นแน่ แต่ก็กลัวเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของน้อง ดังนั้น วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่อง สังคมก้มหน้า ระวังปวดคอกันนะครับ” แพทย์ดิตถพงษ์กล่าว….

การก้มคอมาก ๆ และก้มเป็นเวลานาน ๆ วันละ หลาย ๆ ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นจากการนั่งทำงานหรือเล่นมือถือ ส่งผลต่อร่างกายเรา ได้แก่ ทำให้เกิดอาการปวดคอ หรือปวดหลังช่วงบน หากรุนแรงมากจากอาการปวดคอธรรมดา อาจถึงขั้นมีการกดทับของเส้นประสาท ทำให้มีกล้ามเนื้อแขน มือ อ่อนแรงได้ แล้วจะป้องกันอย่างไรที่จะไม่ให้มีอาการปวดคอ

อย่างแรกคือการลดการเล่นมือถือลง อาจจะพักทุกครึ่งถึง 1 ชั่วโมง เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง เพื่อลดแรงกดต่อหมอนรองกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อคอ หากเลิกเล่นมือถือไม่ได้จริง ๆ ให้ “เงยหน้าขึ้น” หรือนอนเล่นเพื่อให้ท่าท่างนั้นไม่ก้มมากจนเกินไป

ลองปรับระดับหน้าจอ หรือมือถือ ให้อยู่ในระดับสายตา สังเกตท่าของตัวเอง ไม่ว่าจะนั่งทำงาน ขับรถ นั่งเล่นมือถือว่าเราอยู่ในท่าที่กำลังก้มอยู่หรือไม่

ปรับท่าของตัวเองไม่ให้อยู่ในท่าที่ก้มจนเกินไป หากเริ่มมีอาการปวดคอ ปวดบริเวณต้นคอท้ายทอย เป็นสัปดาห์แล้วไม่หายสักที หรือมีอาการปวดคอร้าวลงแขน หรือมีอาการชาร่วมด้วย และในบางรายมีการกดทับมากๆ อาจมีอาการปวดคอจนแขน-มืออ่อนแรง หากใครก็ตามที่มีอาการดังกล่าวควรรีบปรึกษาแพทย์นะครับ เพราะเสี่ยงได้ว่าจะเป็นอาการของโรคหมอนรองกระดูกส่วนคอเคลื่อนทับเส้นประสาทได้