ประสบการณ์ทำเลเซอร์ รักษาอาการปวดหลังร้าวลงขา โดย Mr. Steven sai pin loy
Mr.Steven sai pin loy ได้เล่าเรื่องราวก่อนหน้าที่จะเข้ามารักษาที่โรงพยาบาล เอส สไปน์ ว่า เขาทรมานกับอาการปวดหลังมานานกว่า 10 ปี เดินไกลไม่ค่อยได้เพราะปวดขาและชาจนไม่อยากเดิน เขาพยายามไปรักษาอาการปวดหลังร้าวลงขาของเขาทุกวิธีที่คนบอกว่าดี ทั้งแพทย์ทางเลือก และการรักษาแผนปัจจุบันนั้น แต่อาการปวดหลังยังไม่ดีขึ้น อีกทั้งอาการปวดร้าวลงขายังเป็นมากกว่าเดิม
เขาได้เข้ารับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดกระดูกสันหลังในต่างประเทศ จากคำแนะนำอีกครั้ง โดยคิดว่าครั้งนี้ต้องหายจากอาการปวดอย่างแน่นอน ช่วงแรกอาการปวดหลังเริ่มดีขึ้น สามารถเดินได้ไกลขึ้น แต่พอรักษาไปนานๆ อาการปวดหลังก็เริ่มกลับมาเป็นอีกครั้ง และมีอาการปวดรุนแรงจนไม่สามารถเดินเองได้ เพราะมีอาการปวดร้าวลงขาทั้ง 2 ข้าง เมื่อกินยาแก้ปวดก็ยังไม่หาย จึงต้องกลับมาพบคุณหมอประจำตัวที่เคยรักษา แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น
เมื่อทราบข่าวว่าน้องที่รู้จักมีอาการแบบเดียวกันและได้มารักษาที่ รพ. เอส สไปน์ แล้วหาย ซึ่งปกติตอนขับรถผ่านมาทุกวันก็ไม่เคยสังเกตเห็น พอรู้ว่ามีโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังตั้งอยู่ตรงนี้ จึงตัดสินใจเลี้ยวรถเข้ามาปรึกษาคุณหมอทันที
เขาได้เล่าอาการปวดหลังที่ทรมานมาหลายปีให้คุณหมอฟัง ซึ่งคุณหมอได้ให้คำวินิจฉัยว่าน่าจะมีอาการเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แต่จะให้รู้แน่จริงจะต้องค้นหาสาเหตุของโรคด้วยการตรวจ MRI เมื่อผล MRI ออกมาคุณหมอได้อธิบายว่าอาการปวดหลังร้าวลงขาของเขานั้นเกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาททำให้ช่องไขสันหลังตีบแคบ ซึ่งวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับตัวเขานั้นก็คือ การรักษาด้วยวิธี “จี้เลเซอร์” ตอนแรกก็งงว่าเลเซอร์สามารถรักษาได้ด้วยเหรอ แต่ความสงสัยก็หมดไปเมื่อคุณหมอได้เปิดวิดีโออธิบายวิธีการรักษาด้วยการจี้เลเซอร์ทุกขั้นตอนให้ดู ทำให้เขารู้สึกว่ามันสะดวก ความเจ็บปวดน้อยลง และใช้ระยะเวลาในรักษาน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเก่า ซึ่งที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้ยินว่าการผ่าตัดแบบนี้จะสามารถกลับมาเดินได้ภายในวันเดียว เพราะเห็นเพื่อนๆ ที่เคยผ่าตัดรักษาเขาทรมานมากหลังจากทำการรักษา นี่จึงเป็นสาเหตุให้เขาตัดสินใจทำการรักษาที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ โดยทันที
• ลดความเจ็บปวด ด้วยเทคโนโลยี “เลเซอร์”
• หมอนรองกระดูกทับเส้นรักษาที่ไหนดี ค้นหาอาการต้นเหตุ ด้วยเครื่อง MRI
เมื่อตื่นมาหลังจากทำการรักษา Mr.Steven ทำการทดสอบตนเองด้วยการลุกขึ้นจากเตียง เพราะยังกลัวว่าจะมีอาการปวดทรมานเหมือนเดิมอยู่ แต่ครั้งนี้พบว่า อาการปวดหลังนั้นหายไปและเดินได้ปกติภายในวันเดียว เหลือแค่ความรู้สึกชาชาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งคุณหมอได้บอกว่าเส้นประสาทถูกกดทับมานาน อาการชาจะค่อยๆ หายไป ทั้งนี้คุณหมอได้ให้แนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังจากการรักษา และเขารู้สึกอัศจรรย์ใจที่สามารถกลับมาเดินได้เหมือนเดิมอีกครั้ง
