020340808

การผ่าตัดกระดูกสันหลัง เรื่องใกล้ตัว ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

ในปัจจุบัน โรคกระดูกสันหลังเสื่อมเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี จากสถิติของกรมการแพทย์พบว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 มีผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังเสื่อมถึง 8,763 ราย โดยมีผู้เข้ารับการผ่าตัด 810 ราย ในขณะที่โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง เอส สไปน์ ได้ให้การรักษาผู้ป่วยมากกว่าแสนรายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 โดยมีการผ่าตัดมากกว่าหนึ่งหมื่นราย

โรคนี้มักเริ่มก่อตัวตั้งแต่อายุประมาณ 25 ปี และมีอาการรุนแรงขึ้นตามวัย โดยส่วนใหญ่จะพบปัญหาในช่วงอายุ 35 ถึง 50 ปี และมักเกิดที่บริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว L4-L5 มากที่สุด

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า สาเหตุหลักเกิดจากวิวัฒนาการของมนุษย์ที่เปลี่ยนจากสัตว์สี่เท้ามาเป็นสองเท้า ทำให้แนวกระดูกสันหลังต้องรับแรงกดมากขึ้นหลายเท่า โดยมีหมอนรองกระดูกทำหน้าที่รับน้ำหนักคล้ายโช้คอัพรถยนต์

ลักษณะการเกิดโรคกระดูกทับเส้นประสาทมี 2 แบบ คือ:

  1. กระดูกเสื่อมและเคลื่อนออกจากแนว (Spondylolisthesis) จนทับเส้นประสาท
  2. กระดูกเสื่อมกดทับหมอนรองกระดูก ทำให้หมอนรองกระดูกปลิ้นไปกดทับเส้นประสาท
ปัจจัยของกระดูกเสื่อมที่ทำให้กระดูกทับเส้นประสาท

จากผลสำรวจในปี พ.ศ. 2552 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า นักเรียน และคนวัยทำงานที่มีอายุ 15-59 ปี จาก 1,000 คน พบว่ามีอาการปวดหลัง 309 คน สาเหตุเกิดจากอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง ท่าทางที่ไม่เหมาะสมเช่น การก้มๆเงยๆยืน การยกของหนักการบิดตัว เอี้ยวตัวอยู่ ตลอดเวลา และนั่งทำงานเป็นเวลานาน พฤติกรรมเหล่านี้คือตัวเร่งทำให้กระดูกสันหลังเสื่อมก่อนเวลาอันควร

ทั้งนี้ยังมีพฤติกรรมที่ทำให้กระดูกสันหลังเสื่อม ได้แก่การเสื่อมตามอายุของกระดูกสันหลังการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงขาดการออกกำลังกายทำให้เกิดโรคอ้วนที่เป็นสาเหตุทำให้กระดูกสันหลังต้องรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดอาการปวดหลัง นอกจากนี้ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีอาการไอเรื้อรังส่งผลกระทบต่อหมอนรองกระดูกสันหลังเป็นสาเหตุทำให้กระดูกทับเส้นประสาท

การผ่าตัดกระดูกสันหลังเป็นเรื่องง่ายมากกว่าที่คิด

เมื่อผู้ป่วยพบว่าตนเองมีอาการปวดไม่ว่าจะเป็นบริเวณคอ หรือหลัง เช่นปวดหลังร้าวลงขา , ปวดคอร้าวลงแขน ,มีอาการชา หรืออ่อนแรง บางรายปวดศีรษะ คล้ายกับเป็นไมเกรน อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนของโรคกระดูกเสื่อมที่เกิดจากกระดูกทับเส้นประสาท หากจะเข้ารับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดต้องผ่านการรักษาเบื้องต้นมาก่อนดังนี้

  1. กินยา ทำกายภาพบำบัด นานกว่า 6 สัปดาห์ แต่อาการยังไม่ดีขึ้นหรือไม่สามารถกลับไปดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  2. ไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้
  3. กล้ามเนื้อขาลีบ หรือ แขน-ขาอ่อนแรงจนไม่สามารถหยิบจับสิ่งของ ใช้งานได้ไม่เหมือนปกติ หรือเดินไม่ได้
  4. สูญเสียการควบคุมการขับถ่าย

เทคนิคการผ่าตัดกระดูกสันหลัง มีกี่วิธี ที่คุณเลือกได้
ส่องกล้องเหมือนกัน แต่ใช้กล้องไม่เหมือนกัน
การผ่าตัดหมอนรองกระดูก ส่องกล้องรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้น

ปัจจุบันการผ่าตัดกระดูกสันหลังไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว ด้วยเทคนิคการรักษาสมัยใหม่ได้พัฒนานวัตกรรมจากการผ่าตัดกระดูกสันหลัง มาเป็นการเจาะรูส่องกล้องซึ่งเทคนิคนี้จะใช้อุปกรณ์ที่มีเลนส์ของกล้องเอนโดสโคป (Endoscopic) ติดอยู่ ที่ปลายกล้อง เปรียบเสมือนดวงตาอยู่ ในตัวผู้ป่วย ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นความผิดปกติได้อย่างชัดเจน แม่นยำ เลือกตัดออกเฉพาะส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาได้โดยไม่ต้องตัดเลาะกล้ามเนื้อส่วนที่ดีออก ทำให้แผลเล็กเจ็บน้อย ปลอดภัย ฟื้นตัวเร็ว หรือ MIS-Spine จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้เข้ารับการรักษา เพราะเพียง 1 คืนก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะวินิจฉัยและชี้ให้เห็นรอยโรคด้วยผล X-ray และ MRI ถึงจะวางแผนการรักษาไปพร้อมผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด แม่นยำ และปลอดภัย

ดังนั้นวิธีการรักษานี้จึงเป็นที่นิยมของผู้ป่วยที่ต้องการกลับไปใช้ชีวิตตาม lifestyle ที่เคยเป็น เช่น กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว คนที่รัก หรือทำในสิ่งที่ชอบ สิ่งที่อยากทำ และไม่เป็นภาระให้กับคนใกล้ชิดได้เร็วยิ่งขึ้น

อ้างอิง :
1. กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข. รายงานสถิติโรค พ.ศ. 2554. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารกรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข; 2554.
2. สํานักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. สรุปรายงานการป่วย พ.ศ. 2555 สํานักงานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์; 2556.

สอบถามข้อมูล

อาการปวดคอ
อาการปวดหลัง
MRI

รพ. เอส ไปน์

เราเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง

ปวดหลัง ปวดคอไม่หาย
ปรึกษาเราเลย!

020340808Line ID @s-spinehospital