เรื่องราวการรักษาของคุณแม่และคุณทวีทรัพย์: จากความเจ็บปวดสู่ชีวิตใหม่
การเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดจากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับคุณแม่ของคุณทวีทรัพย์ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมานานถึง 11 ปี ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเธอ อาการ ปวดหลัง อย่างต่อเนื่องทำให้ไม่สามารถเดินได้อย่างสะดวก
“ทรมานมากเลย เจ็บจนแทบจะเดินไม่ได้มา 11 ปี ถ้าฝนตกหรือหนาว ก็ไม่ได้นอนเลย” คุณแม่เล่าถึงความทรมานที่เธอต้องเผชิญจากอาการปวดหลังที่ทำให้ชีวิตยากลำบาก จนการนอนหลับกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ก่อนหน้านี้ คุณแม่ได้ปรึกษาแพทย์หลายท่าน ซึ่งทำการวินิจฉัยว่าเธอมีอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แพทย์แนะนำให้เธอทำการผ่าตัดแบบเปิด ต้องใช้มีดกรีดและอาจต้องนอนฟื้นเป็นเวลานาน นอกจากนี้ต้องกายภาพำบัด ซึ่งคุณแม่คิดว่าการรักษาด้วยวิธีนี้จะเป็นภาระกับครอบครัว เธอจึงตัดสินใจไม่ทำการผ่าตัดในครั้งนั้น
“หมดกำลังใจเลย คิดว่าเป็นโรคเวรโรคกรรมแล้ว เพราะหมอบอกว่ารักษาไม่หาย” คุณแม่กล่าวอย่างสิ้นหวัง
อาการแบบไหนคือ “โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” (Herniated Nucleus Pulposus)
คุณแม่ยังเล่าต่ออีกว่า ในวันที่สิ้นหวังลูกชายทั้งสองคน ได้ค้นหาข้อมูลของโรงพยาบาลเอส สไปน์ และแนะนำให้คุณแม่ลองศึกษาเพราะเขาเชื่อว่าเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง น่าจะมีเทคโนโลยีในการรักษาแบบใหม่
เมื่อเข้าไปดูก็พบว่าที่นี่ผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลัง แบบส่องกล้องเอ็นโดสโคป ที่มีแผลเดียวและขนาดเล็ก ทำให้ฟื้นตัวเร็ว นอนโรงพยาบาลเพียงแค่ 1 คืนเท่านั้น เธอจึงเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งและตัดสินใจเข้ารับการรักษา
ในวันที่มาถึงโรงพยาบาลคุณแม่บอกว่าเป็นผู้ป่วยรายอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายคลึงกันนั่งรถเข็นอยู่ก็รู้สึกกลัว ในวันรุ่งขึ้นกลับมาฟังผลเพื่อเตรียมการรักษาเห็นผู้ป่วยท่านเดิมกลับมาเดินได้ภายในคืนเดียวหลังการผ่าตัด ทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นว่ามาถูกที่แล้ว โดยคิดในใจว่า โชคดีแล้วที่วันนั้นไม่ได้ตัดสินใจผ่าตัดแบบเปิด
“ทำแล้วคืนนั้นก็เดินได้เลย หายจริงๆ ให้ 100% เต็ม!” คุณแม่กล่าวด้วยความดีใจ
หลังจากการ ผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลัง คุณแม่รู้สึกประทับใจอย่างมาก และยังย่ำว่าใช้เวลาผ่าตัดเพียงแค่ 40-45 นาที เอง เพราะเธอไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนครั้งก่อนๆ เธอสามารถลุกขึ้นเดินได้ในคืนนั้นทันที เมื่อถามความรู้สึกถึงอาการปวดหลังและ ปวดหลังร้าวลงขา ที่เธอทนมานานกว่า 11 ปีเป็นอย่างไรบ้าง ก็ได้คำตอบว่า
“ ไม่ปวด ไม่ปวดหลังเหมือนก่อนผ่า หลังที่จากทำแล้วไม่มีอาการปวดเลย”
เทคนิคการผ่าตัดกระดูกสันหลัง มีกี่วิธี ที่คุณเลือกได้
ส่องกล้องเหมือนกัน แต่ใช้กล้องไม่เหมือนกัน
ในขณะที่คุณทวีทรัพย์ ลูกชายคนที่ 2 เริ่มมีอาการปวดสะโพกร้าวลงขา ไม่นานหลังจากที่คุณแม่เป็น แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังเพราะอายุยังไม่เยอะและคิดว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบธรรมดา จึงไปหาวิธีการรักษาแบบอื่นๆ จนอาการปวดสะโพกร้าวลงขาเริ่มกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเขา
แม้ว่าจะกินยาและฉีดยาไม่ได้ช่วยให้อาการปวดสะโพกร้าวลงขาดีขึ้น ในขณะเดียวกันคุณทวีทรัพย์ ต้องพาคุณแม่ไปตรวจติดตามอาการที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ เขาตัดสินใจเข้ารับการตรวจหาสาเหตุของอาการที่เขาเป็นว่าเป็นอะไรกันแน่ เมื่อผล x-ray และ MRI ออกมาพบว่าตัวเขาเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเหมือนกับคุณแม่ แพทย์ยังพบว่าหมอนรองกระดูกของเขาแตกและรั่ว ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดรุนแรง
“ช็อกนิดๆ เพราะไม่คิดว่าตัวเองอายุแค่นี้จะเป็นได้เยอะขนาดนี้” คุณทวีทรัพย์กล่าวในวันที่เข้ามารักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
ปวดหลัง….ต้องทำ X-RAY หรือ MRI ?
MRI แบบยืน นวัตกรรมใหม่เพื่อการวินิจฉัยอาการปวดหลังอย่างแม่นยำ
แม้จะรู้สึกกลัวการผ่าตัด เพราะเขายังอายุเพียง 26 ปี แต่หลังจากได้เห็นการฟื้นตัวของคุณแม่ เขาเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น คุณทวีทรัพย์จึงตัดสินใจเข้ารับการรักษาในวันนั้นทันที
การผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังของคุณทวีทรัพย์เป็นไปได้อย่างราบรื่น เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่สามารถเดินได้ตามปกติในวันถัดไป อาการปวดสะโพกร้าวลงขา ที่เคยทำให้เขาลำบากก็หายไปอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
“รู้สึกเหมือนชีวิตใหม่ ไม่เจ็บแล้ว เดินได้ปกติเลย” คุณทวีทรัพย์กล่าวทิ้งท้าย
หลังจากการรักษาที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ ทั้งคุณแม่และคุณทวีทรัพย์ต่างรู้สึกว่าชีวิตของพวกเขาได้รับการปลดปล่อยจากความทุกข์ทรมานยาวนาน คุณแม่ไม่ต้องเผชิญกับอาการ ปวดหลังและปวดสะโพกร้าวลงขา ที่เคยเป็นมานานกว่า 11 ปี และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ส่วนคุณทวีทรัพย์ สามารถกลับมาใช้ชีวิตเหมือนปกติอีกครั้ง ความรู้สึกถึงการเดินนานๆ หรือทำกิจกรรมที่เคยทำให้เจ็บปวดกลายเป็นเพียงความทรงจำ
เรื่องราวของคุณแม่และคุณทวีทรัพย์สะท้อนถึงความสำเร็จของการรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังแบบแผลเดียวรูเดียว ที่มีขนาดแผลเพียง 0.5 เซนติเมรต ทำให้ไม่เพียงแต่ทั้งสองคนจะฟื้นตัวจากโรคได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังได้รับชีวิตที่มีคุณภาพกลับคืนมา โรงพยาบาลเอส สไปน์ มุ่งมั่นในการดูแลผู้ป่วยด้วยความใส่ใจและห่วงใยในทุกขั้นตอนของการรักษา ไม่ว่าคุณจะเผชิญกับอาการ ปวดหลัง หรือ ปวดสะโพกร้าวลงขา เราพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างคุณทุกครั้งที่คุณมีอาการปวดหลัง ขอขอบคุณที่ไว้วางใจให้โรงพยาบาลเอส สไปน์ดูแลสุขภาพของคุณ ปวดไม่หาย…มาหาเรา